ทีมผู้ตัดสินหญิง ชุดแรกเป่าฟุตบอลโลก คอสตาริกา-เยอรมนี
“ชุดแรกของโลก” กรรมการสาวฝรั่งเศส เปิดใจหลังเตรียมนำ “ทีมผู้ตัดสินหญิงล้วน” ลงเป่าในฟุตบอลโลก 2022 คู่ คอสตาริกา-เยอรมนี
สเตฟานี ฟราปาร์ ผู้ตัดสินหญิงชาวฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์กับ บีบีซี สปอร์ต สื่อชั้นนำของอังกฤษ ก่อนนำ “ทีมผู้ตัดสินหญิงล้วน” ชุดแรกของโลก ที่จะได้ลงทำหน้าที่ในศึกเวิลด์คัพของผู้ชาย ในฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเอฟ ระหว่าง ทีมชาติคอสตาริกา พบ ทีมชาติเยอรมนี ในวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคมนี้ แข่งขัน 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ สเตฟานี ฟราปาร์ วัย 38 ปี เพิ่งเป็นผู้ตัดสินหญิงคนแรกที่มีชื่อลงทำหน้าที่ในศึกเวิลด์คัพของผู้ชาย ด้วยการเป็นผู้ตัดสินที่ 4 ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก กลุ่มซี ซึ่ง เม็กซิโก เสมอ โปแลนด์ 0-0 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ต่อด้วย นัดแรก กลุ่มเอช ซึ่ง โปรตุเกส ชนะ กานา 3-2 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน
แต่หนนี้ สเตฟานี ฟราปาร์ จะกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำหน้าที่ในฐานะผู้ตัดสินที่ 1 ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ของผู้ชาย ในคู่ระหว่าง คอสตาริกา กับ เยอรมนี ที่สนามอัล เบย์ท สเตเดียม เมืองอัล กอร์ โดยจะนำทีมผู้ตัดสินหญิงล้วนชุดแรกในเวิลด์คัพของผู้ชาย ร่วมกับ เนวซา บัค ผู้ช่วยผู้ตัดสินหญิงชาวบราซิล และ คาเรน ดิอาซ เมดินา ผู้ช่วยผู้ตัดสินหญิงจากเม็กซิโก
ด้าน ฟราปาร์ เปิดใจก่อนลงทำหน้าที่ครั้งประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลกของผู้ชายเป็นครั้งแรกว่า “เรารู้ดีถึงความกดดัน แต่ฉันคิดว่าเราจะไม่เปลี่ยนตัวเอง และจะต้องใจเย็น ตั้งสมาธิ มีความมุ่งมั่น อย่าคิดมากกับสิ่งที่จะปรากฏตามสื่อและทุกสิ่งที่จะมารบกวนจิตใจ แค่โฟกัสไปที่การทำหน้าที่ในสนามก็พอ”
สำหรับ สเตฟานี ฟราปาร์ ถือเป็นผู้ตัดสินหญิงมือ 1 ของวงการฟุตบอลในเวลานี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งเธอเคยเป็นกรรมการสาวคนแรกที่ลงเป่าในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ของผู้ชาย เกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี ที่ ยูเวนตุส ชนะ ดินาโม เคียฟ 3-0 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ปี 2020 รวมถึงเป็นคนแรกที่ลงทำหน้าที่ในฟุตบอลชายรายการใหญ่ของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ในศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ปี 2019 ซึ่ง ลิเวอร์พูล ดวลจุดโทษชนะ เชลซี 5-4 หลังเสมอ 2-2 ในเวลา 120 นาที
ทั้งนี้ ในบรรดาผู้ตัดสินที่ 1 ทั้ง 36 คนที่ได้รับเลือกให้มาทำหน้าที่ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ มีเชิ้ตดำหญิง 3 รายด้วยกัน โดยนอกเหนือจาก สเตฟานี ฟราปาร์ แล้ว ยังมี ซาลิมา มูกันซันกา (รวันดา) และ โยชิมิ ยามาชิตะ (ญี่ปุ่น)
